ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็นยุคๆ ตามช่วงเวลา และมีเหตุการณ์สำคัญๆ รวมถึงจุดเปลี่ยนแปลงเด่นๆ
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
เริ่มจากเครื่อง UNIVAC I เป็นต้นมา ซึ่งเครื่อง UNIVAC I นี้ เอ็คเคิร์นและมอชลีได้เริ่มโครงการสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1946 ณ มหาวิทยาลัยเพนซิวาเนีย โดยสร้างสำเร็จและเผยสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1951 เครื่อง UNIVAC I เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่นำมาใช้กับงานด้านธุรกิจเมื่อปี ค.ศ. 1954 คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 จะใช้หลอดสุญญากาศ เป็นหน่วยประมวลผลกลาง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
ในปี ค.ศ. 1947 นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์เบลล์แล็บได้ค้นพบอุปกรณ์ ทรานซิสเตอร์ เพื่อใช้แทนหลอดสุญญากาศ คุณสมบัติของทรานซิสเตอร์ คือเป็นสวิสซ์ที่มีขนาดเล็ก ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย ประมวลผลรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือมากกว่าหลอดสุญญากาศ คอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นในยุคที่ 2 ส่วนหน่วยความจำหลักที่ใช้ในยุคนี้คือ วงแหวนแม่เหล็ก และใช้บัตรเจาะรู เทปแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำสำรอง
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
ในระหว่างปี ค.ศ. 1960 ได้มีการค้นพบเทคโนโลยีโซลิดสเตต โดยที่โซลิดสเตตเป็นการรวมของทรานซิสเตอร์ ไดโคดและรีจิสเตอร์ลงในชิปเดี่ยวบนซิลิคอน ทรานซิสแต่ละตัวจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยโลหะขนาดเล็กเพื่อใช้สร้างเป็นวงจรชนิดต่างๆ ในยุคนี้ได้มีการใช้ภาษาระดับสูงอย่างแพร่หลาย คอมพิวเตอร์ในยุคที่ 3 ถือเป็นยุคแห่งการประมวลผลข้อมูล มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ ที่ใช้ในการรวม จัดเรียง และการโอนถ่ายข้อมูลจากสื่อจัดเก็บหนึ่งไปยังสื่อจัดเก็บอื่นๆ
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
ในกลางปี ค.ศ. 1970 บริษัทอินเทลได้ค้นพบวิธีการนำทรานซิสเตอร์หลายพันตัวบรรจุลงในชิปซิลิคอนหรือไอซีเพียงตัวเดียว และต่อมาในปี ค.ศ. 1975 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ได้สร้างขึ้นภายในชื่อว่า Altair8800 ซึ่งเป็นไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ในยุคที่ 4 ไมโครคอมพิวเตอร์ได้มีการแพร่หลายมาก จนกระทั่งบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้ทำการสร้าง เครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิล และเป็นไมโครคอมพิวเตอร์ตัวแรกที่ได้รับความนิยามใช้งานเป็นอย่างสูงนับแต่นั้นมา
ในปี ค.ศ. 1979 บริษัทโมโตโรลา ได้สร้างไมโครโปรเซสเซอร์ รุ่น MC68000 ที่บรรจุจำนวนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 68,000 ชิ้น และไมโครคอมพิวเตอร์จำนวนมากมายได้ใช้ชิปดังกล่าวเป็นตัวประมวลผลชิปนี้มีความสามารถเทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ในยุคก่อนๆ เลยทีเดียว เทคโนโลยีในยุคที่ 5 จัดเป็นยุคปัจจุบันที่ใช้ความสามารถของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้กับงานด้านฐานความรู้ ระบบผู้เชี่ยวชาญ และระบบปัญญาประดิษฐ์
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 6 (ปี ค.ศ. 1990- ปัจจุบัน)
ที่ผ่านมาทั้ง 5 ยุค พัฒนาการของคอมพิวเตอร์จะเป็นไปในทางการปรับปรุงการผลิต และการ เสริมสร้างความสามารถทางด้านการคำนวณของคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการจำกัด ความสามารถทางด้านการป้อนข้อมูล ในปัจจุบัน ความต้องการทางด้านการป้อนข้อมูลอย่างอิสระ โดยใช้เสียงและภาพ ซึ่งถือเป็นการป้อนข้อมูลโดยธรรมชาตินั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่เป็นเพียงแต่เครื่องคำนวณ จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี การติดต่อระหว่างประเทศและอื่น ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น