วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ยุคของคอมพิวเตอร์


ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็นยุคๆ ตามช่วงเวลา และมีเหตุการณ์สำคัญๆ รวมถึงจุดเปลี่ยนแปลงเด่นๆ
 
 
คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1
เริ่มจากเครื่อง UNIVAC I เป็นต้นมา ซึ่งเครื่อง UNIVAC I   นี้ เอ็คเคิร์นและมอชลีได้เริ่มโครงการสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1946 ณ มหาวิทยาลัยเพนซิวาเนีย โดยสร้างสำเร็จและเผยสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1951 เครื่อง UNIVAC I เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่นำมาใช้กับงานด้านธุรกิจเมื่อปี ค.ศ. 1954 คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 จะใช้หลอดสุญญากาศ เป็นหน่วยประมวลผลกลาง




คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2
ในปี ค.ศ. 1947 นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์เบลล์แล็บได้ค้นพบอุปกรณ์ ทรานซิสเตอร์ เพื่อใช้แทนหลอดสุญญากาศ คุณสมบัติของทรานซิสเตอร์ คือเป็นสวิสซ์ที่มีขนาดเล็ก ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย ประมวลผลรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือมากกว่าหลอดสุญญากาศ คอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นในยุคที่ 2 ส่วนหน่วยความจำหลักที่ใช้ในยุคนี้คือ วงแหวนแม่เหล็ก และใช้บัตรเจาะรู เทปแม่เหล็กเป็นหน่วยความจำสำรอง




คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3
ในระหว่างปี ค.ศ. 1960 ได้มีการค้นพบเทคโนโลยีโซลิดสเตต โดยที่โซลิดสเตตเป็นการรวมของทรานซิสเตอร์ ไดโคดและรีจิสเตอร์ลงในชิปเดี่ยวบนซิลิคอน ทรานซิสแต่ละตัวจะถูกเชื่อมต่อกันด้วยโลหะขนาดเล็กเพื่อใช้สร้างเป็นวงจรชนิดต่างๆ  ในยุคนี้ได้มีการใช้ภาษาระดับสูงอย่างแพร่หลาย คอมพิวเตอร์ในยุคที่ 3 ถือเป็นยุคแห่งการประมวลผลข้อมูล มีโปรแกรมอรรถประโยชน์ ที่ใช้ในการรวม จัดเรียง และการโอนถ่ายข้อมูลจากสื่อจัดเก็บหนึ่งไปยังสื่อจัดเก็บอื่นๆ



คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4
ในกลางปี ค.ศ. 1970 บริษัทอินเทลได้ค้นพบวิธีการนำทรานซิสเตอร์หลายพันตัวบรรจุลงในชิปซิลิคอนหรือไอซีเพียงตัวเดียว และต่อมาในปี ค.ศ. 1975 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้ไมโครโปรเซสเซอร์ 8080 ได้สร้างขึ้นภายในชื่อว่า Altair8800 ซึ่งเป็นไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ในยุคที่ 4 ไมโครคอมพิวเตอร์ได้มีการแพร่หลายมาก จนกระทั่งบริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้ทำการสร้าง เครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิล และเป็นไมโครคอมพิวเตอร์ตัวแรกที่ได้รับความนิยามใช้งานเป็นอย่างสูงนับแต่นั้นมา


คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5
ในปี ค.ศ. 1979  บริษัทโมโตโรลา ได้สร้างไมโครโปรเซสเซอร์ รุ่น MC68000 ที่บรรจุจำนวนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 68,000 ชิ้น และไมโครคอมพิวเตอร์จำนวนมากมายได้ใช้ชิปดังกล่าวเป็นตัวประมวลผลชิปนี้มีความสามารถเทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ในยุคก่อนๆ เลยทีเดียว   เทคโนโลยีในยุคที่ 5 จัดเป็นยุคปัจจุบันที่ใช้ความสามารถของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้กับงานด้านฐานความรู้ ระบบผู้เชี่ยวชาญ และระบบปัญญาประดิษฐ์



คอมพิวเตอร์ยุคที่ 6 (ปี ค.ศ. 1990- ปัจจุบัน)
ที่ผ่านมาทั้ง 5 ยุค พัฒนาการของคอมพิวเตอร์จะเป็นไปในทางการปรับปรุงการผลิต และการ เสริมสร้างความสามารถทางด้านการคำนวณของคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการจำกัด ความสามารถทางด้านการป้อนข้อมูล ในปัจจุบัน ความต้องการทางด้านการป้อนข้อมูลอย่างอิสระ โดยใช้เสียงและภาพ ซึ่งถือเป็นการป้อนข้อมูลโดยธรรมชาตินั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ไม่เป็นเพียงแต่เครื่องคำนวณ จึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี การติดต่อระหว่างประเทศและอื่น ๆ





 




ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ เหตุการณ์และผลงานที่สำคัญ

ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์


Charles Babbage  ได้ทำการออกแบบเครื่อง Difference Engine เมื่อปี ค.ศ. 1822 ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับทุนสนับสนุนและคำอนุญาติจากรัฐบาล เมื่อปี ค.ศ. 1823 แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องดังกล่าวของแบบเบจก็สร้างได้ไม่สมบูรณ์แบบ เหตุผลหนึ่งที่แบบเบจตัดสินใจหยุดโครงการพัฒนาเครื่อง Difference Engine  เนื่องจากได้ค้นพบความไม่น่าเชื่อถือบางประการในการคำนวณของเครื่องดังกล่าว จนกระทั่งต่อมา แบบเบจก็ได้ทำการพัฒนาเครื่องใหม่ภายใต้ชื่อว่า  Analytical Engine ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนหน่วยความจำ (Memory Unit) ที่สามารถจัดเก็บตัวเลขและนำไปคำนวณได้ ยิ่งไปกว่านั้น เครื่องดังกล่าวยังสามารถพิมพ์ข้อมูลได้อัตโนมัติ สามารถนำเข้าข้อมูลด้วยบัตรเจาะรู (Punched Cards) และใช้ชุดคำสั่งในการควบคุม เครื่อง Analytical Engine นี้ยังมีฟังก์ชันหน้าที่หลายๆ อย่างเช่นเดียวกับ คอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบัน ดังนั้นแบบเบจจึงถูกขนานนามให้เป็น  “บิดาแห่งคอมพิวเตอร์” เป็นต้นมา



Lady Augusta Ada Byron เป็นสตรีคนสำคัญคนหนึ่งที่ช่วยออกแบบเครื่องของแบบเบจ อีกทั้งยังได้เสนอแนวคิดแหละเป็นผู้เขียนโปรแกรมชิ้นแรกเพื่อใช้กับเครื่องดังกล่าว ต่อมาเธอก็ได้ถูกขนานนามให้เป็น “โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก” ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สร้างภาษาคอมพิวเตอร์มาตรฐาน ISO ขึ้นมาตัวแรก พร้อมตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ เลดี้ เอดา ว่า ภาษา “ADA



Herman  Hollerith  ในปี ค.ศ.1887 เฮอร์แมน ฮอลเลอริธ (Herman  Hollerith ) ได้ทำการพัฒนาเครื่อง Tabulating Machines ขึ้น  ซึ่งใช้กับบัตรเจาะรู สามารถจัดเรียงบัตรมากกกว่า 200 ใบต่อนาที และก็ได้นำมาชั้งานสำรวจสำมะโนประชากรของชนอเมริกันหลายครั้งด้วยกัน และต่อมา ในปี ค.ศ. 1896 เฮอร์แมนก็ได้ทำการก่อตั้งบริษัทตนเองขึ้นมาภายใต้ชื่อว่า The Tabulating Machine Company และอีกไม่นานต่อมาก็ได้ทำการรวมบริษัทกว่า  10  แห่งด้วยกันและก่อตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อว่า International Business Machines ซึ่งในปัจจุบันก็คือ บริษัทคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกซึ่งก็คือบริษัท IBM นั่นเอง


Alan Turing แอลัน แมธิสัน ทัวริง (Alan Mathison Turing) (ค.ศ. 1912) (ค.ศ. 1954) เป็นนักคณิตศาสตร์,นักตรรกศาสตร์,นักรหัสวิทยาและวีรบุรุษสงครามชาวอังกฤษ และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ เขาได้สร้างรูปแบบที่เป็นทางการทางคณิตศาสตร์ของการระบุขั้นตอนวิธีและการคำนวณ โดยใช้เครื่องจักรทัวริง ซึ่งตามข้อปัญหาเชิร์ช-ทัวริง ได้กล่าวว่าเป็นรูปแบบของเครื่องจักรคำนวณเชิงกลที่ครอบคลุมทุกๆ รูปแบบที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทัวริงมีส่วนสำคัญในการแกะรหัสลับของฝ่ายเยอรมัน โดยเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่ม Hut 8 ที่ทำหน้าที่ในการแกะรหัสของเครื่องอินิกมา ที่ใช้ในฝ่ายทหารเรือ  หลังจากสงครามเขาได้ออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถโปรแกรมได้เครื่องแรกๆ ของโลกที่ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์แห่งชาติ และได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นจริงๆ ที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ รางวัลทัวริง ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อยกย่องเขาในเรื่องนี้ นอกจากนั้นแล้ว การทดสอบของทัวริงที่เขาได้เสนอนั้นมีผลอย่างสูงต่อการศึกษาเรื่อง ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งในขณะมีถกเถียงที่สำคัญว่า : เป็นไปได้หรือไม่ที่จะกล่าวว่าเครื่องจักร์นั้นมีสำนึกและสามารถคิดได้



Konrad  Zuse Z3 ของประเทศเยอรมนี ออกแบบใน ค.ศ. 1941 โดย Konrad Zuse เป็นคอมพิวเตอร์ไฟฟ้าจักรกลอเนกประสงค์เครื่องแรก มันเป็นคอมพิวเตอร์ดิจิทัล ใช้เลขคณิตฐานสอง เป็นทัวริงบริบูรณ์ และโปรแกรมได้เต็มที่ โดยใช้เทปเจาะรู แต่ใช้รีเลย์ในการทำงานทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่ใช่คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์



Prof.Howard H. Aiken ในปี ค.ศ. 1937 ศาสตราจารย์ โฮเวิร์ด ไอเค็น (Professor Howard H. Aiken) ร่วมมือกับวิศวกรจากไอบีเอ็กได้สร้างเครื่อง MARK I ซึ่งเป็นการสานแนวความคิดของแบบเบจได้สำเร็จ โดยเครื่อง MARK I นี้เป็นเพียงเครื่องจักรกลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electro-Mechanical Machine) ซึ่งสร้างด้วยสวิตช์จักรกลไฟฟ้า ที่เรียกว่า ตัวรีเลย์ (Electro-Magnetic Relays) และเครื่อง MARK I ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1944



ปี พ.ศ.2480-2481  Dr.John V. Atanasoff & Clifford Berry ศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ ณ Lowa State College พร้อมผู้ช่วยชื่อ คลิฟฟอร์ด เบอรี (Clifford Berry)  ได้สร้างเครื่องคำนวณที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องแรกของโลกภายใต้ชื่อว่า เครื่อง ABC (The Atanasoff-Berry-computer)  โดยใช้หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tube) ระบบเลขฐานมีหน่วยความจำและวงจรตรรกะเพื่อใช้กับการคำนวณทางฟิสิกส์ ซึ่งคล้ายกับเครื่องคิดเลขในปัจจุบัน ถึงแม้เครื่อง ABC จะไม่ได้รับการกล่าวขานและใช้งานอย่างจริงจัง แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกของเครื่องคำนวณทางอิเล็กทรอนิกส์นับจากนั้นมา



ในปี ค.ศ. 1946 ดร.จอนห์น ดับบลิว มอชลี และศาสตราจารย์ เจ เพรสเพอร์ เอ็คเคิร์ต (Dr. John W. Mauchly & J. Presper Eckert)  ได้สร้างเครื่อง ENIAC (Electronic Numerical Integrator And Calculator) ซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเครื่อง MARK I โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ ENIAC จำเป็นต้องใช้ห้องเพื่อติดตั้งที่มีขนาดถึง 30 × 50 ฟุต ตัวเครื่องมีหลอดสุญญากาศกว่า 18,000 หลอด หนักกว่า 30 ตัน ใช้กำลังไฟฟ้า 150 กิโลวัตต์ บวกเลขได้ 5000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งประมวลได้เร็วกว่าเครื่อง MARK I กว่าหนึ่งพันเท่า  ถึงแม้เครื่อง MARK I,ABC และ ENIAC เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่ก็ยังมีการโปรแกรมภายนอกอยู่



ดร.จอห์น ฟอน นอยมานน์ (Dr.John von Neumann) ได้สร้างแนวคิดในการจัดเก็บโปรแกรม (Storde Program Concept) โดยมีหน่วยความจำที่สามารถทำหน้าที่ในการจัดเก็บได้ทั้งข้อมูล (Data) และชุดคำสั่ง (Instructinos) และนอยมานน์ก็ได้ร่วมมือกับทีมงานเดิมที่ได้สร้างเครื่อง ENIVAC เพื่อสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ EDVAC (Electronic Discrete Variable Automatic Computer) และ EDSAC (Electronec Delay Storage Automatic Computer) ซึ่งเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆ ที่ใช้แนวคิดในการจัดเก็บโปรแกรมเป็นต้นมา



Dr.Ted Hoff ดร.เทด ฮอฟฟ์ แห่งบริษัทอินเทลได้มีการพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์รุ่น Intel 4004


 

Steve Jobs & Steve Wazniak ได้สร้างแอปเปิลคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องแรก ภายใต้ชื่อว่า Apple ll และได้รับการตอบรับถึงความสำเร็จอย่างรวดเร็วทั่วโลก เครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวได้มีการนำไปใช้งานสถาบันการศึกษาต่างๆ และนักศึษาหลายคนก็ได้มีโอกาสสัมผัสเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก




Bill Gates บริษัทไอบีเอ็ม เสนอให้บริษัทไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นของ บิลเกตส์ ให้ทำการพัฒนาโปรแกรมระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องไอบีเอ็มพีซี (PC-DOS) หลังจากนั้นเป็นต้นมา บิลเกตส์ก็ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการ MS-DOS ขึ้นมาใช้งานบนเครื่องพีซีทั่วไป ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม






วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดระนอง (อุทยานแห่งชาติแหลมสน)


สวัสดีค่ะ !!!!

ขอแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระนองค่ะ
จังหวัดระนองเป็นสถานที่ติดกับชายฝั่งทะเลอันดามัน มีหาดด้วยกันหลายหาด เช่น หาดบางเบน หาดประพาส หาดชาญดำริ เป็นต้น ทั้งนี้ จึงขอแนะนำ หาดบางเบน หรืออุทยานแห่งชาติแหลมสนค่ะ เพื่อเชิญชวน ให้ผู้ที่สนใจได้ไปท่องเที่ยวกันค่ะ 

ขอแนะนำ อุทยานแห่งชาติแหลมสน ค่ะ


อุทยานแห่งชาติแหลมสน หรือ หาดบางเบน



          อุทยานแห่งชาติแหลมสน ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง อำเภอกะเปอร์ กิ่งอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง และอำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง ครอบคลุมพื้นที่บริเวณหาดแหลมสนและหมู่เกาะใกล้เคียง ร่มรื่นด้วยป่าสนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด ทั้งมีหาดทรายขาวละเอียดเป็นแนวยาวและกว้างใหญ่ มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก อุทยานแห่งชาติแหลมสนมีเนื้อที่ประมาณ 196,875 ไร่ หรือ 315 ตารางกิโลเมตร


 อุทยานแห่งชาติหรือว่าหาดบางเบน เป็นหาดทรายที่ยาว




ลักษณะภูมิประเทศ
อุทยานแห่งชาติแหลมสนจะมีลักษณะเป็นชายฝั่งจมตัว ซึ่งก่อให้เกิดชายหาดตลอดแนวฝั่งแคบ มีลำน้ำสายสั้นขนาดเล็กจำนวนมาก เช่น คลองลัดโนด คลองขะนุด และคลองบางเบน ซึ่งลำคลองเหล่านี้จะพัดพาตะกอนดินมาทับถมตามปากแม่น้ำ และชายฝั่ง ทำให้ลักษณะชายฝั่งบริเวณปากแม่น้ำลำคลอง ถูกปกคลุมไปด้วยป่าโกงกาง


 
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะอากาศทั่วไป
เนื่องจากอุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง อยู่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จึงทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นกว่าจังหวัดอื่นและตกเกือบทั่วไป ส่วนฤดูหนาวอากาศไม่หนาวจัด เพราะอยู่ไกลจากอิทธิพลของอากาศหนาวพอสมควรแต่บางครั้งอาจมีฝนตกได้ เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทยเอาฝนมาตกปริมาณน้อยกว่าจังหวัดที่อยู่ทางด้านตะวันออกของภาคใต้




การเดินทาง

          จังหวัดระนองอยู่ห่างจากกรุงเทพฯระยะทางประมาณ 568 กม. ระนองเป็นจังหวัดแรกทางด้านฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศไทย มีแม่น้ำกระบุรีเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ทิศเหนือ และทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชุมพร ทิศตะวันตก ติดทะเลอันดามัน และทิศใต้ ติดกับจังหวัดพังงา
การเดินทาง เดินทางได้ตลอดทั้งปี โดยสามารถเดินทางได้หลายวิธีดังนี้
          1. รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 - 9 ชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านเพชรบุรี ประจวบฯ ถึงสี่แยกปฐมพร (ชุมพร) เลี้ยวขวา ผ่านอำเภอ กระบุรี เข้าตัวเมืองระนอง
          2. รถประจำทาง รถโดยสารประจำทาง บริษัทขนส่งจำกัด มีบริการรถโดยสารปรับอากาศ ทั้งธรรมดา และ VIP หรือ รถร่วมเอกชน คือ บริษัทนิวมิตรทัวร์ และบริษัทโชคอนันต์ทัวร์
          3. ทางเครื่องบิน สามารถสอบถามทางบริษัทภูเก็ตแอร์ไลน์ก่อนล่วงหน้า
          4. ทางรถไฟ จากกรุงเทพฯ ไม่มีรถไฟไประนองโดยตรง นักท่องเที่ยวที่ประสงค์เดินทางโดยรถไฟ สามารถลงรถไฟที่สถานีรถไฟชุมพร จังหวัดชุมพร แล้วต่อรถโดยสารประจำทาง ชุมพร - ระนอง ระยะทาง 122 กม. 



อุทยานแห่งชาติแหลมสน 


ที่จัดตั้งที่ทำการอยู่บริเวณหาดบางเบน อยู่ระหว่าง อ.เมือง กับ อ.กะเปอร์ ก่อนถึง อ.กะเปอร์ จะมีทางแยกขวามือเข้าหาดบางเบน (สามแยกบ้านสำนัก ต.ม่วงกลวง องกะเปอร์)หรือบริเวณ กม.ที่ 657 ให้เลี้ยวขวาเข้าที่ทำ การอุทยานฯ ระยะทาง 10 กม.



วีดีทัศน์แนะนำ อุทยานแห่งชาติแหลมสน (หาดบางเบน)
  



Cr. ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=1046




เกี่ยวกับตัวฉัน


สวัสดีค่ะ  ......  !!!!!

          ขอต้อนรับเข้าสู่ บล๊อกของ นางสาวกาญจนา เหลืองทอง



ขอแนะนำตัวค่ะ

ชื่อนางสาวกาญจนา  เหลืองทอง 
ชื่อเล่น จุ๊บแจง เรียกสั้นๆ แจง 
อยู่ คพธ.561  เลขที่ 1
เกิดวันที่ 7 พฤศจิกายน 2537

ที่อยู่ 22 หมู่ 1 ต.ละอุ่นใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง 85130
ที่พัก 5/11 อาคารพีทีอพาทเมนต์ ห้อง 203 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต

จบการศึกษาจาก วิทยาลัยเทคนิคระนอง ระดับ ปวช. สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ปัจจุบันกำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต คณะวิทยาการจัดการ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

E-mail jang.na.laun1010@gmail.com
Facebook Kanjana  Hluangtong

คติ  จะดีหรือชั่ว อยู่ที่ตัวทำ จะสูงหรือต่ำ อยู่ที่ทำตัว
นิสัย ใจคอ โกรธง่าย หายเร็ว สบายๆ เรื่อยๆ